หลังจากกรณีลุง จ.ยโสธร ที่มีฐานะยากจน แบกร่างลูกชายขึ้นรถเข็นมาเผาศพที่วัด เพราะไม่มีเงินจัดงานศพให้ลูกชาย จนมีผู้พบเห็นนำเรื่องราวมาโพสต์ลงโซเชียล จนมีผู้แชร์เป็นจำนวนมาก
และเมื่อช่วงบ่ายของเมื่อวาน 10/7/2562 ทางด้าน พ.ต.อ.ปณิธาน ยามานนท์ ผกก.สภ.เมืองยโสธร ได้รับแจ้งเข้ามาว่ามีลุงวัยชราเข็ยร่างไร้วิญญานของลูกชาย เพื่อมาเผาที่ วัดทุ่งสว่างชัยภูมิ และไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้า ทางเจ้าหน้าที่เลยเจขาตรวจสอบ พร้อมด้วย ร.ต.อ.สมชาย ศรีวิเศษ รอง สวป.สภ.เมืองยโสธร ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรป้องกันปราบปราม และ จนท.สายตรวจ จยย.
และเมื่อไปถึงทีวัด วัดทุ่งสว่างชัยภูมิ ภาพที่เห็นก็คือ มีรถเข็นคันเก่าๆ มีร่างของลูกชาย ปิดด้วยผ้าขนหนู จนได้พบกับคุณลุง ทราบชื่อ สมพร มาลาศรี อายุ 67 ปี เล่าว่าลูกชายอายุ 24 ปีเท่านั้น ส่วนสาเหตุการจากไปคือ ป่วยเพราะโรคประจำตัวมาหลายปีแล้ว
ทางบ้านมีฐานะยากจน ไม่มีเงินที่จะจัดงานศพให้ลูก ไม่มีญาติพี่น้อง ส่วนอาชีพก็เก็บของเก่าขายไปวันๆเพื่อประทังชีวิต เลยตัดสินใจอุ้มศพลุกชายตัวเองขึ้นรถเขนมาที่วัด ขอความเมตตาให้ทางวัดช่วยเผาศพให้ แต่เจ้าหน้าที่วัดเหนว่ายังไม่ได้มีการแจ้งกับทางหน่วยงาน เลยให้ตำรวจมาตรวจสอบ และไปแจ้งการจากไปที่เทศบาลยโสธร
จนทำให้ พ.ต.อ.ปณิธาน ยามานนท์ ผกก.สภ.เมืองยโสธร เข้าใจความรู้สึกของคุณลุง ที่ไม่มีเงินจัดงานศพให้ลูก จึงตัดสินใจมอบเงินช่วยเหลือให้จำนวนหนึ่ง พร้อมเป็นเจ้าภาพในการจัดงานให้ และมีกำหนดพิธีสวดอภิธรรม 1คืน วัดก็ยินดีจัดงานศพให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ
สุดท้าย นายสมพร ได้เปิดเปยว่า ตนไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะมีฐานะยากจน และไม่รู้จักขั้นตอนในการดำเนินการเกี่ยวกับมีคนตายในบ้าน จากนี้ตนจะไปแจ้งตายที่เทศบาลเมืองยโสธรเพื่อขอใบมรณบัตร สำหรับพิธีฌาปนกิจศพ ในช่วงบ่ายวันที่ 11 กรกฎาคม 2562
ขอบคุณข้อมูล สภ.เมืองยโสธร และ tnews