ชีวิตพลิกผัน กอล์ฟ ฟักกลิ้ง หันขายหมูปิ้ง ไม่กลัวเสียภาพดีกว่าเกาะลูกเมียกิน

เพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสCV-19 หลายๆ อาชีพได้รับผลกระทบอย่างหนัก ไม่ใช่เฉพาะคนหาเช้ากินคำ่เท่านั้น บรรดานักร้องนักดนตรีก็ได้ทำงานไม่ได้ ขาดรายได้ไปตามๆ กัน

หนึ่งในนั้นก็คือ หนุ่มกอล์ฟ พักกลิ้งฮีโร่ ที่เพิ่งปล่อยอัลบั้มเต็มออกมา ได้รับ 5 รางวัลจากเวทีใหญ่ แต่จากที่่เดือนนี้ต้องพีคที่สุดของปี กลับกลายเป็นว่าต้องตกงานนั่งนอนอยู่บ้าน

แต่ถึงจะต้องเจอจุดต่ำสุดของชีวิต หนุ่มกอล์ฟ ก็ไม่ท้อหรือปล่อยให้ตัวเองว่างงานไปเรื่อย ล่าสุดเจ้าตัวหันไปทำอาชีพใหม่อย่างการ ขายหมูปิ้งในช่วงเช้าของวัน แม้รายได้ไม่มาก แต่ หนุ่มกอล์ฟ เผยว่าสุขใจที่ได้ทำและเงินที่ได้ก็พอจะซื้ออาหารได้ในแต่ละมื้อ นอกจากนี้ยังเผยอีกว่าไม่กลัวเลยว่าจะเสียภาพพจน์ แต่อายมากกว่าที่ต้องให้เมียและลูกหาเลี้ยง ไปอ่านกันเลยดีกว่าว่า หนุ่มกอล์ฟ เผยไว้ว่ายังไงบ้าง

บันทึกไว้ว่าเดือนมีนาคม 2020 เป็นเดือนที่ชีวิตของผมมาถึงจุดพีกถึงขีดสุด อัลบั้ม Into the New Era ที่อุตสาหะบากบั่นทำมา 2 – 3 ปี ได้รับห้ารางวัลจากสองสถาบันใหญ่ภายในช่วง 10 วัน
ใครจะรู้ว่าไม่กี่วันต่อมา สถานการณ์หวัด Covid – 19 จะพลิกผันให้เดือนที่ดูรุ่งโรจน์ที่สุดของผมกลับเป็นเดือนที่งานเงียบเชียบที่สุดเหมือนอย่างที่ดูจะแย่ลงเรื่อยๆมาซักพัก ผลกระทบจากสิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึงส่งผลให้เราทุกคนตกอยู่ในสภาพที่ไม่รู้ว่าความหวังอยู่ที่ใด เพราะมันช่างดูสิ้นหวังเหลือเกิน

ผมมีวันหยุดอยู่บ้านหลายวัน ถ้าจะนับข้อดีในเรื่องนี้ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้อยู่กับครอบครัว เล่นกับลูก ต่อกันดั้มหรืออ่านหนังสือที่ดองไว้มานาน

แต่ข้อเสียคือผมกลายเป็นคนว่างงาน ว่างแบบชนิดทุเรศตัวเอง
ทุกวันนี้รายได้ของบ้านเราจะแบ่งเป็นสองก้อนหลัก คือรายได้จากงานเพลงของผม ตั้งแต่เพลงโฆษณาถึงงานจ้าง กับอีกทางคือจากทาง บ.บ้านชูใจ โปรดัคชั่นเฮาส์เล็กๆที่รับทำคลิปโฆษณาต่างๆ อันเป็นงานหลักของเบลทำกับชูใจ ซึ่งตอนนี้มันจึงกลายเป็นรายได้ทางเดียวที่หล่อเลี้ยงบ้านเรา

นั่นหมายถึงว่าทุกวันที่ผมนอนว่างงาน ผมกำลังกินข้าวที่ลูกเมียหามาให้ผมกินอยู่ หากจะมองเห็นข้อดีที่วิกฤตการนี้ได้ให้บทเรียนผม ผมมองว่ามันสอนผมเรื่องความไม่ประมาทในชีวิตได้อย่างดีมาก ท่ามกลางความสำเร็จที่โหมกระหน่ำเข้ามา อยู่ๆพอมันจะหายไปมันหายไปง่ายกว่ามาก คนชนะพร้อมพ่ายแพ้หมดรูปในชั่วพริบตา ชื่อเสียงที่เป็นเหมือนเพชรก็เช่นกัน วิจิตรเพียงใด ในวันที่แสงไม่อยากฉายมาจับ เพชรมันก็เป็นเพียงแค่หิน

ผมตัดสินใจบอกเบลว่าผมขอออกไปขายหมูปิ้งช่วงว่างงานนี้ งานนี้ใช้เวลาออกนอกบ้านแค่ตอนเช้า ใช้เวลาฝึกไม่นาน แม้รายได้ไม่เยอะแต่ก็คงพอค่ากับข้าวในแต่ละวัน ที่สำคัญหมูปิ้งเป็นอาหารเช้าที่ชูใจโปรดปราน อย่างน้อยถ้าขายไม่ได้เลย ผมก็ยังมีข้าวเหนียวหมูปิ้งกลับไปฝากลูกทุกเช้า

เบลถามผมว่าไม่กลัวเสียภาพเหรอ อยู่เฉยๆก็ได้ ผมตอบเธอว่าในฐานะหัวหน้าครอบครัวที่มือเท้าอยู่ครบดี .. ผมอายกว่ามาก ถ้าต้องอยู่เฉยๆให้ลูกเมียหาเลี้ยง

เช้านี้ผมจะเริ่มขายวันแรกแล้ว โชคดีที่มีกัลยาณมิตรที่ดีอย่างจี๋และแนน ทั้งคู่อยู่ช่วยผมทุกอย่างจนถึงให้ทำเลขายหน้าร้านหม่าล่าสะโบมั้ย ซ.รัชดา32 ที่เดิมไว้ตั้งหน้าร้าน
สองสามวันที่ซ้อมปิ้งหมูมา กลับเป็นโมเม้นท์ที่ผมรู้สึกสบายใจที่สุดในขณะได้ลงมือทำ ผมไม่หวังอะไรไกลในความร่ำรวยภายหน้า ผมไม่คิดเสียดายอะไรที่เคยมีแล้วไม่มีอีกต่อไป

ผมรู้แต่เพียงปัจจุบัน ผมจะปิ้งหมูให้อร่อยที่สุดแค่นั้นพอ

โพสต์ดังกล่าว

ขอบคุณภาพจาก IG@ftodah