รอมานาน ลิเดีย แมทธิว อัดคลิปส่งตรงจากโรงพยาบาล อัพเดทอาการป่วย

อยู่โรงพยาบาล รักษาตัวมาระยะหนึ่งเลยก็ว่าได้ สำหรับ คู่สามีภรรยาคนบันเทิง แมทธิว ดีน และ ลิเดีย ศรัณย์รัชต์  ที่ทั้งคู่ต้องเข้ารับการรักษาตัวอย่างด่วนเนื่องจาก ติดเชื้อไวรัสCV-19 ซึ่งใครได้ติดตามก็จะทราบกันมาตลอดว่าทั้งคู่มักจะออกมาอัพเดทอาการให้ได้ทราบกัน ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่อาการก็ดีขึ้นตามลำดับแล้ว

ล่าสุดในวันที่ 31 มีนาคม 2563 ในวันนี้ ทั้งคู่ได้ออกมาเปิดใจทางอินสตาแกรม ถึงอาการต่างๆ ที่ต้องเจอระหว่างทำการรักษา โดยเผยว่าต้องเข้าไอซียูมาแล้ว ซึ่งเนื้อหาในคลิปก็มีคร่าวๆดังนี้ แมทธิวเข้ารักษาตัวมา 18-19 วัน ส่วนลีเดียรักษามา 17 วัน


เข้ามาแรกๆแมทธิว มีอาการไข้ จากนั้นก็เช็ก ปอด เลือด ออกซิเจน อาการถือว่าน้อย น่าจะปล่อยให้หายเองได้ น่าจะหายเองได้ในไม่กี่สัปดาห์ หมอตัดสินใจว่าคงไม่ต้องกินยา อยู่โรงพยาบาล 2 วัน ไข้หาย แต่พอวันที่ 5 มีอาการท้องเสียและไข้กลับมาที่อุณหภูมิ 37 ต้นๆ คุณหมอจึงให้ เอกซเรย์ปอด แล้วก็เจอเชื้อCVในปอดจริงๆ ที่ด้านขวา จากที่ตอนแรกไม่มี พบว่าลงปอดและเริ่มอักเสบ เมื่อมีความเสี่ยงจึงตัดสินใจทำการรักษาโดยจัดยาให้กิน

ส่วนลีเดีย มีไข้ตลอด ตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลอุณหภูมิไข้ที่ 37-38 ต้นๆ คุณหมอเช็กทุกอย่างก็เคลียร์ ฟังเสียปอดโอเค ออกซิเจนที่วัดปกติ สิ่งเดียวที่ผิดปกติคือไข้แต่ก็ไม่ได้สูงมาก ทุกอย่างน่าจะโอเค อาการคัดจมูก เจ็บคอก็ไปหมด ไม่มี จึงคิดว่าร่างกายเราคงขับไวรัสออกหมดแล้ว แต่พอวันรุ่งขึ้นคุณหมอก็สั่งทำ ลีเดีย ซีทีสแกน และพบว่าปอดทั้งสองข้างเริ่มอักเสบแล้วไวรัสเข้าไปในปอด ทำให้ปอดเป็นสีขาวๆ ทั้งสองข้าง หมอเลยให้เริ่มยาทันที เพราะไม่ควรเสี่ยงถ้าขยายไปทำให้ปอดอักเสบเพิ่มเติมก็จะเป็นเรื่องหนัก

ทั้งคู่ต้องย้ายเข้าไปอยู่ห้องไอซียู เพราะถ้าลุกลามที่ปอดมากกว่าเดิมก็จะได้มีอุปกรณ์ที่ช่วยเราได้ แมทธิว อยู่ไอซียู 2-3 วัน ลีเดียอยู่ 5 วัน และกินยา หลังกินยารู้สึกว่าได้ผลชัดเจน มียา 4 ตัว เป็นยาต้าน HIV มาลาเรีย และยาไวรัสต่างๆ กินแล้วไข้หาย ปอดดีขึ้นเรื่อยๆ ยาต้องกินครบโดสต่อเนื่อง 10 วันและมื้อนึงกิน 10 เม็ด แต่ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากกินยา เพราะมีผลข้างเคียง แต่ทั้งคู่มีอาการชัดเจนก็เลยต้องกิน คุณหมอไม่เสี่ยง ยามีเอฟเฟกต์กับแมทธิวน้อย มีผลต่อร่างกายนิดหน่อยคือท้องเสีย แต่ลีเดียตัวเล็ก ผลข้างเคียงมากหน่อยจะเบลอๆ คลื่นไส้ เวียนหัวท้องเสีย ไม่อยากกินอะไรเลย ตามัว มองอะไรแล้วเหมือนใส่แว่นขยาย

ทางกายไม่มีปัญหา แต่มีปัญหาเรื่องความรู้สึก คือการต้องอยู่กับความกังวล ว่าจะลามปอดหรือไม่ ไข้จะกลับมามั้ย จะหายเมื่อไหร่ คุณหมอยังไม่สามารถตอบได้ว่าเลิกทานยาจะกลับมามั้ย ทำให้เรากังวลตลอดเวลา แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะคุณหมอทุกท่านมีความรู้รักษาเราอย่างเต็มที่ อัตราการหายจะโรคนี้ก็ดีมากๆ

ทั้งคู่ก็มีความหวังว่าเราจะค่อยๆ ดี ฟื้นตัว ไม่อยากให้คนอื่นมาเจอสภาพแบบนี้ ห่างลูก ห่างครอบครัว ต้องมาอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมตลอดเวลาสิ่งมีผลต่อสภาพจิตใจก็ไม่อยากให้เขามาเจอกับเรา

ชมคลิป

ขอบคุณข้อมูลจาก IG lydiasarunrat
เรียบเรียงโดย kaazip.com