รัฐบาลลดใช้ถุงพลาสติก แต่อนุมัตินำเข้าขยะพลาสติกจากต่างประเทศ

นี่ถือเป็นปรากฎการณ์ของประเทศไทยเลยก็ว่าได้สำหรับนโยบายการงดใช้ถุงพลาสติก โดยจะเริ่มจากร้านสะดวกซื้อ และ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ  ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีนำถุงผ้ามาใช้ซื้อของในร้านสะดวกซื้อ และห้างสรรพสินค้า หลังทราบว่าถูกกำหนดให้งดแจกถุงพลาสติก โดยมีห้างร้านเอกชนกว่า 90 บริษัททั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ Everyday Say No To Plastic Bags

เมื่อวันที่ 2 มกราคม ที่ผ่านมา นายสนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์ข้อความ ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีห้างสรรพสินค้างดใช้ถุงพลาสติก ระบุว่า นโยบายที่ขัดแย้งในเรื่องพลาสติก

1.ภาคเอกชนภาคีเครือข่าย 43 แห่งให้ความร่วมมือกับภาครัฐด้วยความสมัครใจงดให้ถุงพลาสติกในห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป คาดว่าจะลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (single-use plastic) ลงได้ 7.8แสนต่อปีจากปริมาณถุงพลาสติกที่เกิดขึ้นประมาณ 2 ตันต่อปี

2.แต่หากจะให้การลดถุงพลาสติกเกิดผลที่กว้างมากขึ้นแบบในประเทศพัฒนาแล้วก็ต้องออกกฏหมายเก็บค่าธรรมเนียมถุงพลาสติกหรือเก็บเงินค่าถุงพลาสติกในทุกร้านค้าทั่วประเทศโดยอาจเป็นถุงพลาสติกที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติหรือเป็นถุงพลาสติกมีความหนาใช้ได้หลายครั้ง การคิดเงินค่าถุงพลาสติกเพียงเล็กน้อยจะเปลี่ยนพฤติกรรมและลดปริมาณการใช้ถุงได้จำนวนมาก เพราะผู้ซื้อสินค้าที่เคยได้รับถุงฟรีๆ หากไม่ต้องการจ่ายเงินค่าถุงก็ต้องนำถุงเก่ามาใช้ซ้ำหรือเตรียมถุงผ้าสำหรับใส่สินค้ามาด้วย

3.ปี 2561-2562 ประเทศไทยนำเข้าขยะพลาสติกจากต่างประเทศมากถึง 481,381 ตันสูงเป็นอันดับ3ในอาเซียน (กรีนพีช) และกำหนดให้มีปริมาณนำเข้าในปีต่อไปปีละ 70,000 ตัน เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าพลาสติกราคาถูก ถ้าใครซื้อของใช้พลาสติกตามร้าน 20 บาท ทั้งหมดจะมาจากพลาสติกรีไซเคิล แต่ที่ยิ่งกว่านั้นปัจจุบันสินค้าพลาสติกคุณภาพต่ำราคาถูกถูกนำเข้าจากประเทศจีนเป็นจำนวนมากนำมาขายและกลายมาเป็นขยะท่วมประเทศไทยอยู่ทุกวันนี้ คำถามว่าทำไมไม่ใช้ขยะพลาสติกในประเทศไทยมารีไซเคิลแทนการนำเข้า ข้อเท็จจริงก็คือ ขยะพลาสติกในประเทศไทยมีจำนวนมากจริง แต่เป็นขยะที่ไม่ได้ถูกคัดแยกอย่างมีประสิทธิภาพทั้งจากประชาชนและรัฐบาล จึงมีการปนเปื้อนสูงดังนั้นโรงงานอุตสาหกรรม จึงซื้อขยะพลาสติกจากต่างประเทศ (โดยเป็นไปตามเงื่อนไขการนำเข้าของรัฐบาลคือเศษพลาสติกต้องสะอาดไม่ปนเปื้อน มีขนาดไม่เกิน 2 เซนติเมตร) นำมารีไซเคิลและผลิตสินค้าพลาสติกราคาถูกขาย ซึ่งจะมีต้นทุนถูกกว่าการนำขยะพลาสติกในประเทศไทยมาคัดแยกและนำมารีไซเคิลผลิตเป็นสินค้าใหม่ ทำให้ขยะพลาส ติกในประเทศตกค้างจำนวนมากและถูกกองทิ้งไว้ในหลุมขยะเทศบาลและไหลลงทะเลในที่สุด

.

.

.

.

.

.

ขอบคุณข้อมูล The Reporters matichon