ขอเลิกกับแฟนเลือกมูลนิธิฯ บิณฑ์ อุทิศชีวิตเพื่อช่วยเหลือสังคมมา 30 ปี

แม้ว่าเมื่อไม่นานมานี้บิณฑ์ บันลือฤทธิ์จะโดนดราม่าเรื่องของการไลฟ์สดแล้วใช้คำพูดที่ไม่ถูกไม่ควร แต่ก็ยังคงมีแฟนคลับคอยติดตามผลงานทางด้านการช่วยเหลือสังคมของอดีตพระเอกหนุ่มบิณฑ์ บันลือฤทธิ์มาโดยตลอด

จึงทำให้แฟนเพจมีจำนวนผู้ติดตามสูงถึง 8 ล้านคน ซึ่งภายในเพจจะเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลาการทำงานของอดีตนักแสดงหนุ่มได้ช่วยเหลือผู้คนมาตลอดกว่า 30 ปี

ล่าสุดได้มาออกรายการต้มยําอมรินทร์แล้วได้พูดคุยถึงบทบาทของการเป็นผู้ช่วยเหลือสังคม การเป็นพระเอกเก็บศพและฉายาพระเอกสัปเหร่อ รวมไปถึงทัศนะคติทางความคิด เรื่องการช่วยเหลือผู้คนแบบไม่ต้องการผลตอบแทนและเรื่องของความรักแบบครบถ้วน

โดยบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ได้กล่าวภายในรายการว่าหลังจากได้ทำงานในวงการแล้ว ต้องการสร้างประโยชน์ให้กับสังคมภายและประเทศชาติ จึงได้ออกมาทำงานให้กับสังคมพร้อมกับเชิญชวนดาราและใครหลายๆ คนมาร่วมทำความดี เพราะคิดว่าการทำความดีนั้นไม่ได้มีลิขสิทธิ์อะไร

พร้อมกับทำงานในวงการบันเทิงร่วมด้วยและคิดว่าการทำงานทั้ง 2 แบบนี้ ให้ประโยชน์กับตัวเองได้โดยที่ไม่มีวงการใดเสีย จึงทำแบบนี้มาโดยตลอดและไม่เคยรู้สึกขี้เกียจเลยแม้แต่น้อย

มีคนมาให้กำลังใจภายในแฟนเพจเป็นจำนวนมาก จึงรู้สึกว่ามีความสุขต่อการได้ช่วยเหลือคน เพราะรู้สึกว่าคนที่ได้การช่วยเหลือจะได้ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องรอคอยความหวัง ถ้าเราสามารถเข้าไปช่วยได้เลยจะทำทันที

พร้อมเปิดเผยชีวิตคนโสดว่าตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีแฟน เพราะเคยมีมาแล้วแต่กลับไม่มีเวลาพอที่จะอยู่ด้วย แม้แฟนเก่าจะเข้าใจว่าเป็นเรื่องของการทำงาน แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้เพราะตนเองเป็นคนที่จะทุ่มเทให้กับงานมากกว่า ดังนั้นจึงคิดว่าการอยู่เพื่อทุ่มเทให้กับงานและสังคมอาจจะดีกว่าการมีแฟน

และคิดว่าการทำงานที่ผ่านมาทำให้รู้สึกสบายใจมากกว่า ไม่ต้องคอยโทรรายงานตัวกับใครและไม่ต้องกังวลว่าแฟนจะคอยมาเป็นห่วง แม้ว่าในอดีตเคยมีแฟนที่รักมากจนถึงขั้นยอมเลิกทำงานมูลนิธิ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจบอกเลิกเพราะรู้สึกว่าการทำงานมูลนิธินั้นแทบจะเป็นสายเลือด

แม้จะคบกันนานกว่า 7 ปี มีทั้งความรักและความผูกพัน เมื่อเวลาเลิกแล้วใช้เวลาทำใจนานถึง 2 เดือน แต่ก็ยังคงกลับไปทำงานกับมูลนิธิอยู่เสมอ พร้อมการตอบคำถามเรื่องการเป็นคู่จิ้นกับบุ๋ม ปนัดดาว่าไม่มีอะไรในกอไผ่แน่นอน เพราะเป็นผู้ทำงานแบบจิตอาสาด้วยกันทั้งคู่ ไม่ได้คิดเกินเลยแม้แต่น้อย

ส่วนระยะเวลาที่ผ่านมา 10 ปี ไม่ได้ปิดประตูหัวใจแต่อย่างใด เพียงแค่ต้องการมุ่งมั่นไปกับการทำงานเท่านั้นและทุกวันนี้ก็ได้ทำงานมายาวนานกว่า 33 ปี จึงมองว่าการทำงานทำให้ตัวเองมีความสุขมากกว่าการมีความรักและต้องการช่วยเหลือคนไปเรื่อยๆ

สำหรับการเสนอเคสที่น่าสงสารต่างๆ จะมาทางกลุ่ม Fanpage และแฟนคลับที่จะมีการนำเสนอเคสที่อาจจะไม่มีในโซเชียลและไม่มีในข่าว ทำให้บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ได้เข้าไปตามเคสและช่วยเหลือได้เต็มที่ จึงมองว่าเป็นการช่วยเหลือที่มีความทั่วถึงมากขึ้น สำหรับเคสผิดพลาดไม่ขอคิดมาก เพราะส่วนตัวแล้วจะเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีอยู่แล้ว แม้จะรู้สึกโกรธในบางเคส

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook

@kaazipบันเทิง