เรียกว่าเป็นหนึ่งในดาราที่ต้องพบเจอกับปัญหาเรื่องของโรคมะเร็ง และต่อสู้มาโดยตลอดอย่างนุ๊ก สุทธิดา ที่ล่าสุดได้ตรวจเจอค่ามะเร็งที่สูงเพิ่มขึ้น จึงอาจจะต้องกลับมารักษาตัวด้วยการกลืนแร่และปรับยาใหม่อีกครั้ง เมื่อเริ่มการรักษามะเร็งไทรอยด์ครั้งก่อนและกลายเป็นว่าค่ามะเร็งกลับเพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้จะต้องมีการปรับยาและจะต้องรักษาแบบเริ่มต้นใหม่อีกด้วย
เหตุนี้เองทำให้นุ๊ก สุทธิดา ต้องเข้มแข็งและต้องทนกับเอเฟ็กต์ผมร่วงอย่างหนักและผิวที่กร้านมากขึ้น สำหรับทางการแพทย์แล้ว เพื่อรักษาให้เซลล์มะเร็งหายไปจะสามารถกลืนแร่ได้สูงสุดเพียงแค่ 6 ครั้งเท่านั้น ส่วนทางเจ้าตัวได้มีการพูดคุยกับรายการถามสุดซอย weekend พร้อมอัพเดทอาการว่า
“มันไม่ได้อาการทรุดหรอกค่ะ แต่ว่าผลเลือดค่ามะเร็งมันสูง แล้วก็จะต้องปรับยา ซึ่งพอปรับยาเสร็จเอฟเฟ็กต์มันก็อาจจะเกิดบ้าง เช่น ผมร่วง ผิวกร้าน เดี๋ยวเดือนกุมภาพันธ์ก็ต้องไปตรวจอีกที ถ้าค่ามะเร็งสูงก็จะต้องกลืนแร่อีกรอบ”
เมื่อทางพิธีกรถามว่าการกลืนแร่มีลักษณะเป็นอย่างไร? นุ๊กได้ตอบคำถามนี้ว่า “มันทำให้เราทรมานมากกว่า มันจะคล้ายๆการให้คีโมกับการรักษาCV มันเป็นการผสมผสานที่ลงตัวมาก คือโดนกักตัวอยู่คนเดียว พอได้ยาไปปุ๊บ ร่างกายเรามันก็กระอักกระอ่วน ทุกอย่างมันอยากจะออกหมดเลย
แล้วเราก็ต้องดูแลตัวเองอยู่คนเดียวเหมือนCVค่ะ คือไปฆ่าเซลล์มะเร็ง แต่ว่าก็จะทำให้เซลล์อื่น ๆ เราอ่อนแอ (กลืนแร่มันต้องทำกี่ครั้ง อย่างที่บอกมันทรมาน แล้วต้องอยู่กักตัวกี่วัน) จริง ๆ แล้วชีวิตคนเราสามารถกลืนได้แค่ 6 ครั้ง ไม่งั้นเราจะทนพิษบาดแผลไม่ไหว
แต่ของนุ๊กเพิ่งกลืนไปได้แค่ครั้งเดียว แต่ถ้าถามว่านุ๊กมีโปรเจ็กต์ที่จะกลืนกี่ครั้งเราจะไม่ทราบ เราต้องดูไป ซึ่งคุณหมอก็ไม่ได้พูดไปถึงข้างหน้าค่ะ เขาก็คงกลัวว่าคนไข้จะกังวลด้วย เพราะว่ากลืนปุ๊บคุณหมอก็จะไม่บอกผลอื่น ๆ เลย จน 6 เดือนข้างหน้า ใกล้ ๆ ที่จะกลืนอีกรอบอาจจะเริ่มได้คุยกันแล้วว่าค่ามะเร็งยังไม่ลง ก็อาจจะต้องกลืนอีกรอบค่ะ”
พร้อมยอมรับว่าอาการต่าง ๆ ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันน้อย แต่จะมีผลกระทบต่อทางร่างกายที่ชัดเจน คือ อาจจะรู้สึกไม่สดใสและเบลอมากกว่าเดิม ทั้งยังทำให้ผมร่วงมากขึ้น แต่โดยส่วนตัวแล้วไม่ได้เครียด สามารถอยู่ได้อย่างเข้าใจและรู้สึกว่าตนเองจะอยู่ได้แบบสบาย ๆ แน่นอน
ซึ่งทางรายการได้ถามถึงแผนการสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง สาวนุ๊ก สุธิดาได้ตอบว่า “ต้องบอกว่าอาจจะเป็นโชคดีที่เราผ่านเรื่องราวร้าย ๆ มาเยอะ โดยเฉพาะเคยเป็นโรคซึมเศร้า ฉะนั้นเราจะรู้ได้ว่าชีวิตเรา อะไรคือความหมายของการมีชีวิตอยู่ เราก็คิดแต่เรื่องความหมาย ไม่ได้คิดเรื่องผลลัพธ์ของการมีชีวิตค่ะ เราก็เลยไม่รู้ว่าการมีชีวิตอยู่อย่างนี้ยาวนานมันจะมีคุณค่ามากไปกว่าอยู่เพื่อใคร หรือเราทำอะไรในแต่ละวัน แล้วด้วยความเข้าใจด้วยแหละว่า เกิด แก่ เจ็บ ตาย มันเป็นเรื่องธรรมชาติ มันก็ทำใจง่ายไม่ได้คิดอะไรมาก บวกกับที่เรามีลูกอยู่ก็จะมีเรื่องราวให้เราทำได้ทุกวัน เลยไม่เคยคิดว่าทำไมต้องตาย ทำไมเป็นเรา”
อย่างไรก็ตามขอเป็นกำลังใจให้นุ๊ก สุทธิดา สามารถก้าวข้ามผ่านโรคมะเร็งและปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตไปได้ด้วยดี