แลกชีวิตเพื่อลูกได้เสมอ พีท ทองเจือ อัพเดทอาการลูกสาวป่วยไทรอยด์

หัวอกพ่อเศร้า พีท ทองเจือ เผยแลกชีวิตเพื่อลูกได้เสมอ หลังเซย่าป่วยหนัก เรียกว่านาทีนี้แฟนๆ แห่ให้กำลังใจอย่างล้นหลามทีเดียว สำหรับครอบครัวของนักแสดงหนุ่ม “พีท ทองเจือ” โดยหนุ่มพีท ได้โพสต์ภาพและข้อความถึงลูกสาวคนโต “น้องเซย่า” เนื่องในวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 16 ปี ซึ่งโพสต์ดังกล่าวได้ระบุว่า

“เซย่ามีความฝันและได้ออกเดินทางตามความฝันตัวเองตั้งแต่อายุ 14 แต่โชคไม่ค่อยดีนัก เซย่าป่วยจนต้องยุติความฝันของตัวเองเพื่อรักษาตัว เรา พ่อ แม่ และ น้องๆ ก็ได้ให้กำลังใจและภาวนาให้เซย่าหายป่วยเร็วๆ เซย่าเป็นดวงใจของเราทุกคน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม พ่อขอเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อเซย่าได้เสมอ พ่ออยากบอกสิ่งนี้กับเซย่าในวันนี้นะครับ”

ล่าสุด พีท ทองเจือ ได้เปิดใจถึงที่มาของโพสต์ในลักษณะนั้นว่า เพราะตนเป็นห่วงลูกสาว เนื่องจากตอนนี้น้องเซย่ากำลังอยู่ในวัยที่เจริญเติบโต แต่แล้วร่างกายกลับมีปัญหา ซึ่งกังวลว่าร่างกายอาจจะหยุดเจริญเติบโต นั่นเลยยิ่งทำให้ตนเป็นห่วงอย่างมาก

อาการแรกๆ จะมีผมร่วง น้ำหนักสวิง ซึ่งตอนนี้น้ำหนักเพิ่มขึ้นมา 14 kg. และมีอารมณ์แปรปรวน สาเหตุที่ตรวจพบ เพราะประจำเดือนไม่มานานถึง 9 เดือน เมื่อไปพบแพทย์ฟังผลก็น่าตกใจมาก เพราะผลที่ออกมาค่าทุกอย่างต่ำหมดเหมือนเป็นผู้ป่วยติดเตียง และไม่ได้ไปตรวจแค่โรงพยาบาลเดียวเท่านั้น แต่ไปรพ.เอกชน 2 ที่ รพ.รัฐบาลอีก 2 ที่

ส่วนสาเหตุของการเกิดโรคนี้ยังไม่สามารถระบุได้ เบื้องต้นคิดว่าอาจจะมาจากความเครียดจากการซ้อมอย่างหนักในช่วงที่จะออกผลงานเพลง และในอนาคต สิ่งที่อาจจะตามมาจากการเป็นโรคนี้ก็คือ มะเร็งผนังมดลูก เนื่องจากร่างกายไม่มีเลือดเสียขับไหลออกมา ก็จะทำให้เลือดไปเกาะตัวรวมกันสะสมอยู่ที่ผนังมดลูก

และยังรวมถึงโรคหัวใจ ซึ่งเกิดจากการทำงานของร่างกายที่ผิดปกติ โดยตนยอมรับว่านี่เป็นปัญหาที่ใหญ่มาก และลูกสาวเองก็เครียดมากด้วย บรรยากาศภายในครอบครัวก็ไม่ค่อยดี เพราะปกติน้องเซย่าจะเป็นเด็กอารมณ์ดี ร่าเริง แต่ตอนนี้ทุกอย่างหดหู่ไปหมด

สำหรับการรักษานั้นตนและภรรยาก็ไม่อยากให้น้องเซย่ากินยา เพราะโรคนี้ถ้าเป็นแล้วจะต้องกินยารักษาไปตลอดชีวิต แต่เนื่องจากน้องอายุยังน้อยอยู่ เลยขอหันกลับมาบำบัดรักษาด้วยวิธีธรรมชชาติ โดยกลับมาใช้ชีวิตให้ปกติมากขึ้น เน้นดูแลใส่ใจเรื่องของสารอาหารที่เหมาะสม เหมาะกับร่างกาย และกินวิตามินที่ร่างกายขาด โดยตนยอมรับว่ายากมาก

แต่ก็ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหน โรคนี้ถึงจะหายไป แต่จากการเริ่มรักษาด้วยวิธีนี้มาได้ประมาณ 7-8 เดือน ก็พบว่าน้องเริ่มดีขึ้น และน้ำหนักตอนนี้ก็ลดลงไป 2 กิโลแล้ว แถมยังไม่มีภาวะผมร่วงอีกด้วย อีกทั้งอารมณ์ของน้องก็กลับมาสดใสร่าเริงตามปกติ และประจำเดือนก็เริ่มมาเหมือนเดิมแล้ว

ส่วนเรื่องการอยากกลับมาเป็นศิลปินอีกครั้งนั้น พีท ทองเจือเล่าว่า ต้องหาวิธีต่างๆ ที่ทำให้เขารู้สึกว่ายังคงอยู่ในเส้นทางเดิมได้ เพียงแต่รูปแบบอาจจะต่างไปจากเดิม อย่างในตอนป่วยเขาก็หัดทำขนมขายทางออนไลน์ ซึ่งก็ปรากฎว่าขายดี และได้มีการออกบูธขายด้วย นั่นยิ่งทำให้น้องพลอยลืมโรคนี้ไปด้วย แต่หากเมื่อไรที่เขาอยากกลับมาร้องเพลงอีกครั้ง ก็จะให้เขาทำ เพื่อให้เขารู้สึกว่า สิ่่งนี้มันยังไม่ได้หายไปจากชีวิต