เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ทางเพจ แรงงานเพื่อสัมคม โพสต์เรื่องราวของ ลูกจ้างสาวชาวกัมพูชา ที่ไปหาหมอแต่อาการยังไม่ดีขึ้น พอกลับไปหาอีกรอบโดนพยาบาลบอกหมอว่า เป็นโรคสำออย รายละเอียดทางเพจระบุว่า
ข่าวไม่ดี ของช่วงนี้คือ มีลูกจ้าง ซึ่งเป็นแรงงานข้ามชาติ สัญชาติกัมพูชา ได้เจ็บป่วยและเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเขต #อำเภออุทัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดยเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562 ลูกจ้างได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาล ด้วยอาการปวดศีรษะอย่างแรง และมีอาการอาเจียน โดยการไปหาหมอลูกจ้างจะ #มีล่ามไปด้วย เพื่อแปลภาษาและสื่อสารกับพยาบาลและหมอ
พยาบาลห้องตรวจได้พูดกับล่ามว่า #เหมือนคนไข้ทะเลาะกับสามีมาหรือเปล่า หลังจากนั้นก็ฉีดยาให้ 1 เข็มแล้วให้กลับบ้าน
ต่อมาวันที่ 13 ธันวาคม 2562 ลูกจ้างปวดศีรษะอย่างแรง #จนหมดสติ และมีรถกู้ภัยได้พาลูกจ้างไปส่งที่สถานพยาบาล เวลาประมาณ 9.00 น
อาการของ ลูกจ้าง #ไม่ตอบสนอง #ไม่สื่อสารอะไรเลย กับพยาบาลผู้ตรวจ พยาบาลผู้ตรวจได้พูดกับล่ามว่า #คนไข้คนนี้มาอีกแล้ว และพูดต่อไปว่า คนไข้เป็น #โรคสำออย ให้นอนไปสักพัก #พอหายสำออย ก็กลับบ้านได้
หมอเดินมาตรวจ แล้วถามพยาบาล พยาบาลบอกหมอว่า #เป็นโรคสำออย #น่าจะงอนแฟน แล้วหมอได้กดไปที่ท้องในส่วนของลิ้นปี่ #คนไข้ไม่ตอบสนองใดๆ
หมอผู้หญิงบอกว่าทำยังไงก็ได้ให้คนไข้พูด ถ้างั้นจะไม่รักษา หมอให้พยาบาลกดท้องต่อไปเรื่อยๆ คนไข้ก็ไม่ตอบโต้อะไรเลย
หมอจึงให้น้ำเกลือคนไข้และปล่อยให้นอนอยู่แบบนั้นจนถึงเวลา 18.00 น อาการคนไข้ไม่ดีขึ้นไม่ตอบสนองใดๆ
จึงได้ทำการส่งงตัวคนไข้ไปยังโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ทางโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาได้เอกซเรย์ สมองของคนไข้ จึงได้ทราบว่าคนไข้มีเลือดออกในสมอง ซึ่งเป็นเลือดดำ (ลิ่มเลือด)
ทางโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาได้ใส่เครื่องช่วยหายใจให้กับคนไข้เพราะคนไข้อาการแย่มากไม่รู้สึกตัวและได้แจ้งกับทางญาติว่าอาการ โอกาสรอดมีน้อย
#ต้องให้ยาสลายลิ่มเลือด และรอดูอาการไปก่อนให้ญาติทำใจได้เลย
คนไข้ป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองแตกไม่ใช่ #โรคสำออย อย่างที่หมอวินิจฉัยในเบื้องต้น
#สามีและล่ามที่ไปด้วย ตั้งคำถามว่า ทำไมหมอไม่ตรวจเอกซเรย์สมองตั้งแต่แรก และทำไมส่งตัวต่อไปยังอีกหนึ่งสถานพยาบาลช้าจัง
เครติดข้อมูลจาก #ล่ามประจำสถานประกอบการ ลูกจ้างทำงานอยู่
โพสต์ดังกล่าว
https://www.facebook.com/ChaySilpThraphyNonHway/posts/2749502375144247