ไม่อยากเป็นภาระสังคม แม่น้องการ์ตูน ตัดพ้อคู่กรณีไม่เคยมาเหลียวแล

เรียกได้ว่าผ่านแล้วกว่า 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2557 คดีรถชนน้องการ์ตูน จนเป็นเหตุให้คุณพ่อจากไป ส่วนตัวของน้องการ์ตูนเอง ก็ต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง อีกทั้งทางด้านคู่กรณีก็ไม่ได้ติดต่อ หรือขอโทษ อีกทั้งยังไม่ได้มีการมาเยียวยาใดใด หลังเกิดเหตุ อีกทั้งยังได้มีการเปลี่ยนชื่อหนีอีกด้วย
ซึ่งทางด้านคุณแม่ของน้องการ์ตูน หลังจากเหตุการณ์นี้เธอต้องสูญเสียสามีและต้องคอยดูแลลูกสาวมาเพียงลำพัง ซึ่งเธอเองก็ได้ทำทุกอย่างไม่ว่าจะเปิดร้านสเต๊ก ขายของต่าง ๆ เพื่อเลี้ยงชีพเธอกับลูกสาว อีกทั้งยังหาเงิน มาดำเนินด้านคดี

และล่าสุดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางด้าน เพจเฟสบุ๊ค ร้านสเต็กคุณแม่การ์ตูน Mother’s Grill Steak House “ย่างด้วยรัก หมักด้วยใจ” ก็ได้ออกมาข้อความของ แม่น้องการ์ตูน ว่าพี่ไม่อยากเป็นภาระสังคมและใครอีกแล้ว..พี่อยากพัก” (ตอนนี้คดีรถชนน้องการ์ตูน และพ่อ มีอายุความเหลือเพียง 4 ปี ซึ่งตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงปัจจุบันนี้ แม่น้องยังไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ จากผู้กระทำผิดเลยแม้แต่น้อย)

จากข้อความข้างบน ที่แม่ส่งมาระบายความในใจกับแอดมินเมื่อไม่นานมานี้ สะท้อนให้เห็นว่า

ภายใต้สภาพจิตใจที่บอบช้ำ แต่ต้องกัดฟันต่อสู้ดิ้นรนสุดชีวิต แม่พยายางอย่างหนักมาตลอด หลายปี มองย้อนกลับไปแล้วคิดทบทวน ว่าแม่คนนี้ทำอะไรไปบ้าง .. เปิดร้านขายสเต็ก ร้านขายข้าวแกง ขายพวงกุญแจ ขายเสื้อ ขายน้ำพริก ประมูลของและเสื้อผ้าเด็ก รับทำข้าวกล่องและจัดเลี้ยงนอกสถานที่ทุกแบบ ขนานไปกับการหาทางเยียวยารักษาน้องมาโดยตลอด จนถึงวันนี้วันที่น้องการ์ตูนเข้าสู่ภาวะวิกฤตอีกครั้ง ภายใต้การผ่าตัดใหญ่ที่กำลังใกล้เข้ามา มีค่าใช้จ่ายอีกมากที่รอแม่อยู่ข้างหน้า ในขณะที่ ผู้กระทำผิดยังอยู่ดีมีสุข และไม่เคยเหลียวแล ผลการกระทำของตัวเองเลยแม้แต่น้อย

แอดมินจึงอยากช่วยเหลือแม่น้อง ในด้านการเรียกร้องความเป็นธรรมจากคู่กรณี อยากหาทนายมาช่วยสืบทรัพย์คู่กรณีอีกครั้ง (หลังจากที่แม่เคยจ้างแต่ต้องยุติลงเพราะมีค่าใช้จ่ายในการติดตาม) ในครั้งนี้แอดมินเห็นว่า อย่างน้อยก็ดีกว่าปล่อยเวลาผ่านไปแบบไม่มีจุดหมาย ในอีก 4 ปีที่เหลือนี้ หากทนายท่านใดสนใจช่วยดำเนินการในราคาไม่สูง รบกวนติดต่อเข้ามาทาง Inbox เพจนี้นะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ 🙏

#ตามหาทนายสืบทรัพย์คนผิด

 

 

 

 

 

 

 

 

ข้อมูล  ร้านสเต็กคุณแม่การ์ตูน Mother’s Grill Steak House “ย่างด้วยรัก หมักด้วยใจ”