รอฟังอีกมุม! เมียช่างสักแก้ลายพญานาค วอนขอให้หยุด รอเวลาชี้แจง หลังโจ้หายป่วย จากกรณี น.ส. สุพรรณี เรืองอ่อน อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ให้ช่างสักลายพญานาคตามแบบที่ตนต้องการบนหลัง แต่ภาพที่ออกมากลับไม่ตรงปก และไม่เป็นดั่งใจ เพราะกลับได้งูเขียวหัวโม่งมาแทน ต่อมาได้ทำการตกลงกัน โดยช่างรายดังกล่าวรับผิดชอบโดยการให้ช่างสักคนใหม่มาสักแก้ลายเก่าแทนให้ ด้วยการสักพญานาคตัวใหม่เข้าไปแทนที่ลายเก่า
ก่อนแก้
หลังแก้
แต่แล้วเรื่องราวดราม่าก็เหมือนกลับไม่จบสิ้น เนื่องจากมีเหตุให้เรื่องราวกลับมาระอุขึ้นอีกครั้ง เมื่อลายสักพญานาคตัวใหม่มาพร้อมอาการผื่นคัน เกิดเป็นตุ่มแดง จนเป็นหนอง แถมสีและลายก็หลุดลอกออกมา สีเปลี่ยนไปจนไม่เหลือคราบความเป็นพญานาคเหมือนในครั้งแรกที่สัก
ล่าสุด น.ส. สุพรรณี ได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนแรกที่สักเสร็จแล้วเกิดอาการคัน จากนั้นมีตุ่มขึ้นและเป็นหนอง ซึ่งตนก็ล้างแผลด้วยน้ำเกลือแล้วทายา โดยอาการดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่สักเสร็จ และเป็นมาประมาณ 9 วันแล้ว ส่วนลายสักรูปพญานาคก็มีสีที่เปลี่ยนไปและซีดจางลง ซึ่งตอนสักกับช่างคนแรกไม่มีอาการแบบนี้ แต่เมื่อมาสักกับช่างรอบหลังนี้ก็เกิดอาการคัน และมีตุ่มแดงขึ้น แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดตุ่มแดงและคันนั้น ตนยังไม่แน่ใจว่าเกิดจากอุปกรณ์ของช่างสักที่ไม่สะอาดพอหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ตนฝากเตือนถึงคนที่ต้องการสักลายต่างๆ ว่า “ถ้าจะสักขอให้ดูร้าน ดูคนสักว่ามีประสบการณ์อย่างไรแค่ไหน เสร็จแล้วอยากให้คนสักช่วยดูแลอย่าให้เกิดกรณีอย่างนี้ ส่วนจะให้ช่างมาดูแลหลังสักหรือไม่นั้น ก็ไม่ได้ติดต่อกับช่างเลย แต่ได้ปรึกษากับผู้รู้คนหนึ่งเขาบอกว่าตอนนี้ต้องรอดูอาการก่อนว่าเป็นอย่างไร และเตรียมไปหาหมอ เพื่อตรวจดูว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดตุ่มแดงเป็นหนองและคันที่รอยสักมาจากอะไร”
ล่าสุด ทางด้านภรรยาของช่างสักคนใหม่ที่แก้งานลายสักให้นั้น ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงผ่านบนเฟสบุ๊คถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า “ตอนนี้เราทำได้แค่เก็บข้อมูลหลักฐาน ในส่วนของเรากับโจ้ไว้ เพราะต้องรอโจ้รักษาตัวหายก่อน”
ส่วนใครที่อยากให้ลงภาพโจ้ที่ใส่ชุดคนป่วยผ่านบนเฟสบุ๊ค ทางแพทย์ได้ชี้แจงมาว่าไม่อนุญาตให้ลง เพราะเข้าข่ายละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และในส่วนที่ว่ารักษาที่ไหน ยังไงนั้น ทางเรามีเอกสารชี้แจงอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวได้
เมียช่างโจ้
ส่วนเรื่องที่เกิดการแชร์ในมุมที่เห็นว่า ไม่เหมาะสม ไม่ถูกนั้น อยากวอนขอให้หยุดการกระทำดังกล่าวด้วย เพราะทางเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ผู้ใหญ่ก็ให้การแนะนำมาเช่นกันว่า เรื่องราวมันไปไกลมาก มากพอที่จะเกิดผลกระทบต่อหลายๆ ฝ่าย
ดังนั้น จึงขอพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกท่าน รบกวนช่วยหยุดการกระจายข้อมูลในส่วนที่เป็นเหตุนำมาซึ่งความเสียหาย เพราะอาจจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องไปด้วย เพราะจุดนี้ทางเราเองก็เสียใจมากๆ และไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม
“ส่วนเวลาที่โจ้จะรักษาตัวนานแค่ไหนนั้น ทางแพทย์ไม่สามารถระบุได้ แต่ขอกราบเรียนไว้ว่าถ้าโจ้ดีขึ้น ร่างกายกลับมาเป็นปกติ และสภาพจิตใจแข็งแรงเมื่อไร ทางเราพร้อมโจ้จะออกมาขอโทษ และชี้แจงรายละเอียดทุกอย่างแน่นอน ขอความกรุณาด้วยนะคะ”
